ม่วง

 สีม่วง 

สีม่วงมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและความหมายที่หลากหลาย ในอดีต สีม่วงเป็นสีที่หายากและมีค่ามาก โดยเฉพาะสีม่วงไทเรียน (Tyrian purple) ซึ่งสกัดจากหอยทะเล เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากและมีราคาสูง สีม่วงจึงมีความเกี่ยวข้องกับชนชั้นสูง ราชวงศ์ และอำนาจ ต่อมาเมื่อมีการค้นพบสีม่วงสังเคราะห์ สีม่วงก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายและมีความหมายที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความหรูหรา และความลึกลับ 

ประวัติความเป็นมาโดยย่อ:

• ยุคโบราณ:

  สีม่วงไทเรียน (Tyrian purple) ซึ่งสกัดจากหอยทากทะเล เป็นสีที่หายากและมีค่ามาก ใช้ในราชสำนักและสำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น 
• ยุคกลาง:

  สีม่วงยังคงเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและราชวงศ์ 
• ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา:

  สีม่วงถูกนำมาใช้ในงานศิลปะและแฟชั่นมากขึ้น 
• ยุคอุตสาหกรรม:

  การค้นพบสีม่วงสังเคราะห์ ทำให้สีม่วงสามารถผลิตได้ง่ายขึ้นและราคาถูกลง ทำให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง 

ความหมายของสีม่วง:

• ความหรูหราและอำนาจ:

  สีม่วงมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์และชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยโบราณ 
• ความลึกลับและจิตวิญญาณ:

  สีม่วงมักถูกมองว่าเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ ความลึกลับ และจิตวิญญาณ 
• ความคิดสร้างสรรค์:

  สีม่วงเป็นสีที่เกิดจากการผสมระหว่างสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีตรงข้ามกัน จึงถูกมองว่าเป็นสีที่มีความคิดสร้างสรรค์ 
• ความอ่อนโยนและความเป็นผู้หญิง:

  สีม่วงอ่อน เช่น สีลาเวนเดอร์ มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงและความอ่อนโยน 
• ความเศร้าโศก:

  สีม่วงเข้มบางเฉดอาจถูกใช้เพื่อแสดงความเศร้าโศกและการไว้อาลัย 
• ความสง่างามและความเย่อหยิ่ง:

  สีม่วงสามารถสื่อถึงความสง่างาม ความเย่อหยิ่ง และความโอ้อวด 

สีม่วงในวัฒนธรรมต่างๆ:

• ตะวันตก:

  สีม่วงเป็นสีประจำวันอาทิตย์ของคริสตจักรโรมันคาธอลิก และยังเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับความกล้าหาญและความยุติธรรม 
• ตะวันออก:

  ในบางวัฒนธรรม สีม่วงอาจถูกมองว่าเป็นสีแห่งความโชคดีและความสุข 
• ประเทศไทย:

  สีม่วงเป็นสีประจำวันเสาร์ และยังเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์